Tuesday, 21 March 2023

สลด เด็กวัย 14 ถูกรถทับเสียชีวิต หลังเกมฟุตบอลโลก 2022 "ฝรั่งเศส-โมร็อกโก"

สุดระทด เด็กวัย 14 ปี ถูกรถทับเสียชีวิต หลังจบเกมฟุตบอลโลก 2022 รอบรองชนะเลิศ ฝรั่งเศส ชนะ โมร็อกโก

วันที่ 15 ธันวาคม 2565 สถานีวิทยุกระจายเสียงบีบีซี สำนักข่าวชั้นนำรายงานว่า หนุ่มน้อยวัย 14 ปีรายหนึ่ง ถูกรถชนและโดนทับร่างก่อนเสียชีวิตที่มงต์เปลลิเยร์ เมืองทางตอนใต้ของประเทศฝรั่งเศส ในระยะเวลาเพียงไม่นานหลังจบเกมฟุตบอลโลก 2022 รอบรองชนะเลิศ คู่ที่ 2 ซึ่ง ทีมชาติฝรั่งเศส เอาชนะ ทีมชาติโมร็อกโก 2-0 เมื่อคืนนี้ที่ผ่านมา (14 ธันวาคม 2565)

เหตุการณ์นี้มีคลิปปรากฏบนโลกโซเชียล ซึ่งมีรถยนต์คันหนึ่งที่ผูกผ้า 3 สี เป็นสีน้ำเงิน ขาว แดง ตามสีธงชาติฝรั่งเศส ถูกห้อมล้อมโดยคนกลุ่มหนึ่งที่ถือธงชาติผืนใหญ่ ทำให้คนขับคันนี้เกิดอาการตกใจ ก่อนเหยียบคันเร่งฝ่าวงล้อมออกไป และได้พุ่งชนวัยรุ่น 2 คนเข้าอย่างจัง ซึ่งก็มี 1 รายที่ถูกรถทับร่าง ก่อนเสียชีวิตที่โรงพยาบาลในเวลาถัดมา

ปัจจุบันมีรายงานว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เริ่มการไล่ล่าหาตัวคนขับมารับโทษแล้ว หลังจากเจอรถยนต์คันดังกล่าวถูกหยุดทิ้งเอาไว้ในบริเวณไม่ไกลจากที่เกิดเหตุ ซึ่ง มิคาเอล เดอลาฟอสส์ นายกเทศมนตรีมงต์เปลลิเยร์ และ ปาทริก วิญาล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเขตแดน พูดว่าทุกคนรู้สึกตระหนกตกใจกับโศกนาฏกรรมครั้งนี้ และหวังว่าจะจับกุมตัวผู้กระทำผิดมาลงอาญาขั้นเด็ดขาดตามวิธีการยุติธรรมได้

ทั้งนี้ ประเทศฝรั่งเศส มีชาวโมร็อกโกอาศัยอยู่ประมาณ 1.5 ล้านคน และจากการที่ทั้ง 2 ชาติโคจรมาเจอกันในฟุตบอลโลก 2022 รอบรองชนะเลิศ ที่กาตาร์ ก็เป็นเหตุให้เกิดการปะทะกันระหว่างแฟนบอล 2 ฝั่ง โดยมีกล่าวว่าตำรวจจะต้องใช้แก๊สน้ำตาเพื่อสลายกลุ่มแฟนบอลที่ก่อเหตุวิวาทตามเมืองต่างๆเช่น กรุงปารีส, เมืองลียง และมีรายงานการจับกุมผู้ก่อเหตุทั่วประเทศถึง 167 คดี

สำหรับ ฝรั่งเศส จะตัดสินแชมป์ฟุตบอลโลก 2022 กับ อาร์เจนตินา ในรอบชิงชนะเลิศ วันอาทิตย์ที่ 18 ธันวาคมนี้ ส่วน โมร็อกโก จะชิงอันดับ 3 กับ โครเอเชีย วันเสาร์ที่ 17 ธันวาคม ชิงชัย 22.00 น. ตามเวลาประเทศไทย ทั้ง 2 คู่

หลังเกมฟุตบอลโลก 2022

แฟนบอลฝรั่งเศส-โมร็อกโกปะทะเดือดหลังเกมบอลโลก เด็กวัย 14 ถูกรถทับเสียชีวิต

สื่อต่างชาติแถลงการณ์ว่า เมื่อวันที่ 14 ธ.ค. กำเนิดเหตุแฟนบอลฝรั่งเศสและโมร็อกโกปะทะกันหลายจุดในประเทศฝรั่งเศส ภายหลังจบเกมฟุตบอลโลก 2022 รอบรองชนะเลิศ ซึ่งฝรั่งเศส แชมป์เก่า เอาชนะโมร็อกโก 2-0 ที่ประเทศกาตาร์ และมีเด็กผู้ชายวัย 14 ปีรายหนึ่งเสียชีวิตที่เมืองมงต์เปลลิเย่ร์

ภายหลังจบเกม แฟนบอลชาวฝรั่งเศสต่างหลั่งไหลลงไปสังสรรค์ชัยบนถนนทั้งประเทศ สร้างความไม่ชอบใจให้แฟนบอลโมร็อกโกบางคนที่อาศัยอยู่ในฝรั่งเศส กระตุ้นให้เกิดเหตุปะทะกันขึ้้นในหลายพื้นที่ โดย โมร็อกโก เคยอยู่ในอาณานิคมของฝรั่งเศสและเดี๋ยวนี้มีชาวโมร็อกโกอาศัยอยู่ในฝรั่งเศสราว 1 ล้านคน

บางพื้นที่เหตุการณ์ร้ายแรง มีการจุดพลุไฟปาใส่กัน และติดไฟทำลายข้าวของ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเมืองมงต์เปลลิเย่ร์ กระทั่งเจ้าหน้าเจ้าตาที่ตำรวจปราบจลาจลจำเป็นต้องใช้แก๊สน้ำตาควบคุมเหตุการณ์

ในเวลาถัดมา เจ้าหน้าที่ตำรวจแถลงว่า เด็กผู้ชายวัย 14 ปีรายหนึ่งโดนรถชนอย่างรุนแรง เจ้าหน้าที่รีบนำตัวส่งโรงพยาบาล แต่เขาเสียชีวิตหลังจากนั้นไม่นาน ตำรวจเจอรถคันดังกล่าวหยุดอยู่ใกล้จุดเกิดเหตุ และกำลังเร่งทำการไต่สวนถัดไป

ขณะที่ชาวเน็ตพากันแชร์คลิปทางเครือข่ายสังคมขณะกลุ่มคนเข้าไปรุมล้อมรถยนต์คันหนึ่งที่คลุมธงชาติฝรั่งเศส หลังจากนั้นฝูงชนก็ดึงธงออกมา ทำให้ผู้ขับเกิดอาการตระหนก ขับรถพุ่งใส่วัยรุ่น 2 คน ก่อนเลี้ยวรถแล้วเร่งเครื่องออกไป ซึ่งจังหวะนั้นรถไปชนเด็กผู้ชายวัย 14 ปีอย่างแรง

ฝรั่งเศส โมร็อกโก

แฟนบอลปะทะเดือดหลังฝรั่งเศสชนะโมร็อกโก เด็ก 14 ถูกรถชนดับ

แฟนบอลก่อความปั่นป่วน-ปะทะเดือดในหลายจุดทั่วฝรั่งเศส หลังเกมการแข่งขันฟุตบอลโลก ระหว่างฝรั่งเศสกับโมร็อกโก พื้นฐาน เจอเด็ก 14 ปี เสียชีวิต 1 คน

บรรยากาศในฝรั่งเศส โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ถนนช็องเซลีเซ ในกรุงปารีส เต็มไปด้วยภาพของแฟนบอลที่พากันออกมาฉลองตามท้องถนน หลังทีมชาติฝรั่งเศสเอาชนะโมร็อกโกไปได้ 2-0 ประตู เข้ารอบชิงแชมป์ได้เสร็จ เมื่อคืนที่ผ่านมา

ที่เมืองมงต์เปอลีเย (Montpellier) ทางตอนใต้ของประเทศ แฟนบอลโมร็อกโกที่ไม่สบอารมณ์ผลการแข่งขัน ออกมาทำให้เกิดความวุ่นวาย ทำลายทรัพย์สินสาธารณะ นิดหน่อย ปะทะ กับแฟนบอลฝรั่งเศสที่ออกมาฉลองความมีชัย จนกระทั่งเหตุการณ์บานปลาย มีการเขวี้ยงเครื่องใช้ใส่กัน

ยิ่งกว่านั้น ยังมีเหตุสลดเกิดขึ้น หลังรถยนต์คันหนึ่งพุ่งชนกลุ่มแฟนบอลโมร็อกโก ที่พยายามล้อมรถเพื่อขโมยธงชาติฝรั่งเศสที่ติดอยู่กับกระจกรถ ทำให้เด็กชายวัย 14 ปี ที่อยู่ในกลุ่มดังกล่าวถูกรถทับเสียชีวิต ซึ่งปัจจุบันนี้ เจ้าหน้าที่ยังอยู่ระหว่างสืบสวน

ที่เมืองนีซ แฟนบอลที่ออกมาเฉลิมฉลองความมีชัย พากันขว้างประทัดใส่ตำรวจปราบโกลาหลที่พยายามตั้งแถวสกัด

สำหรับโมร็อกโกเคยเป็นประเทศอาณานิคมของฝรั่งเศส จึงมีผู้อพยพและชุมชนชาวโมร็อกโกอาศัยกระจัดกระจายอยู่ทั่วๆไปในฝรั่งเศส และหลายท่านถือ 2 สัญชาติ

เว้นเสียแต่ที่ฝรั่งเศสแล้ว ที่กรุงบรัสเซลส์ของเบลเยียม ยังมีแฟนบอลโมร็อกโกราว 100 คน ที่ไม่พอใจผลการแข่งขัน ออกมาก่อไฟเผาสิ่งของตามถนน จนถึงตำรวจจำเป็นต้องยิงแก๊สน้ำตาและปืนฉีดน้ำแรงดันสูงเข้าควบคุมสถานการณ์ และจับกุมผู้ก่อความระส่ำระสายไปจำนวนหนึ่ง