ศึกจักรยานยนต์ชิงแชมป์โลก “โมโตจีพี” จัดแจงเปิดฤดูกาลใหม่ 2023 ก่อนหน้านั้นจะมี Official Test กันก่อน 2 สนาม ที่เซปัง อินเตอร์เนเชันแนล เซอร์กิต ประเทศมาเลเซีย 10-12 เดือนกุมภาพันธ์ ต่อจากนั้นไปที่ออโตโดรโม ประเทศโปรตุเกส 11-13 มี.ค. และ 17-20 มี.ค. (รุ่นโมโต 2-โมโต 3) แล้วต่อจากนั้นจะเริ่มแข่งสนามแรกของฤดูที่สนามเดียวกันนี้ในวันที่ 24-27 มี.ค.
ความรู้จากเพจ Yamaha Thailand Racing Team ในทุกๆรายการแข่งขัน จะแบ่งรอบการขี่ลงสนามออกเป็น 4 รอบเป็น รอบการฝึกซ้อม (Free Practice) รอบการควอลิฟาย หรือ (Qualifying) รอบการวอร์มอัป (Warm up) และ รอบการแข่งขันจริง (Race) ซึ่งจะเป็นตัววินิจฉัยผลงานของนักแข่งขันและทีมในสนามนั้นๆ
แล้วทีนี้ การขี่ลงสนามในรอบ Free practice และ Qualifying นั้นมีส่วนสำคัญยังไง…รอบการฝึกซ้อม (Free Practice) จะเป็นช่วง ของการทำงานอย่างเต็มที่ ทั้งนักแข่ง และทีมงาน เพื่อที่จะหาข้อมูลทุกสิ่ง ตั้งแต่สภาพสนาม ตัวรถแข่ง การเซตติ้งรถ การทดลองอุปกรณ์ อื่นๆรวมถึงการทดลองสเปกยางต่างๆ เพื่อให้นักแข่ง และตัวรถพร้อมที่สุดสำหรับสนามนั้นๆ
รอบการควอลิฟาย (Qualifying) ถือว่าเป็นช่วงที่สำคัญก่อนการแข่งขัน เนื่องจากว่าสำหรับในการควอลิฟายจะเป็นการจับเวลาเพื่อจัดตำแหน่งในกริดสตาร์ต ซึ่งนักแข่งทุกคนจะมุ่งเน้นการควอลิฟายเป็นอันมาก เนื่องจากได้การออกสตาร์ตที่อยู่ด้านหน้า ก็จะได้เปรียบในเรื่องของการเลือกไลน์ ซึ่งแตกต่างจากการออกสตาร์ตจากข้างหลัง ที่เสียเปรียบจากการเลือกไลน์แล้ว ยังต้องหาไลน์สำหรับเพื่อการแซงคันหน้าอีกด้วย นอกเหนือจากนี้ระยะห่างของแต่ละกริด ก็ยังสร้างความได้เปรียบและเสียเปรียบด้วยเหมือนกัน
รอบการวอร์มอัป (Warm up) รอบๆการวอร์มอัป จะถือได้ว่าเป็นการทดสอบรถ และการคอนเฟิร์มสเปกการเซตติ้งต่างๆ ครั้งสุดท้าย จากนักแข่งให้กับทีมงานก่อนรอบการแข่งขันจริง
การแข่งขัน (Race) จะเป็นการตัดสินต่อสิ่งที่ดำเนินการมาตลอด ตั้งแต่ตอนฝึก ซึ่งนักแข่งทุกคนควรจะมีสมาธิ และการตัดสินใจ เพื่อที่จะทำผลงานที่ดีที่สุดให้กับตนเองและทีม
Ducati เปิดตัวทีมแข่งขัน “โมโตจีพี” ลุยฤดูกาล 2023 “บัญญาญ่า” ใช้หมายเลขรถเบอร์ “ 1 “
เปิดตัวออกมาเรียบร้อยแล้วสำหรับดูคาติ พร้อมลุยศึกโมโตจีพี ฤดูกาล 2023 พร้อมทั้งนักแข่งขันประจำทีมอย่าง “ฟรานเชสโก้ บัญญาญ่า” เปลี่ยนมาใช้รถเลข 1 และ “เอเนีย บาสเตียนินี” ที่ได้ช่องทางขึ้นมาขี่ให้กับทีมโรงงาน
ดูคาติ เป็นทีมที่ 3 ต่อจาก ยามาฮ่า และ เกรซซินี ที่ได้เปิดตัวทีมแข่ง โมโตจีพี เผยโฉมรถแข่ง และนักแข่งของทีมสำหรับลุยศึกการแข่งขัน รถจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลก ฤดูกาล 2023 โดยนักแข่งประจำทีมเป็น “ฟรานเชสโก้ บัญญาญ่า” แชมป์โลกโมโตจีพี คนล่าสุด ซี่งในปีนี้จะใช้หมายเลขรถแข่งหมาย 1 เป็นหมายเลขที่แชมป์โลกคนปัจจุบันแค่นั้นที่สามารถใช้ได้ และอีกคนก็คือ ดาวรุ่งมาแรงอย่าง “เอเนีย บาสเตียนินี” ที่ย้ายมาจากทีมอิสระ เกรซซินี เรซซิ่ง
สำหรับตัวรถแข่งยังคงใช้ลายกราฟิกแบบเดิมที่เป็นสีแดง รูปลักษณ์มีความเปลี่ยนแปลงอยู่พอสมควรจากปีที่แล้ว โดยจากเดิมแฟริ่งรอบคันนั้นใหญ่ขึ้นดูถึก และบึกบึน มาปีนี้เหมือนทำให้มองซูบผอมลง ซึ่งเป็นรถ ที่ได้รับการพัฒนามาจากปีที่แล้ว พร้อมทดลองในกุมภาพันธ์นี้ ที่สนามเซปังฯ ประเทศมาเลเซีย
ผลงานฤดูกาลที่แล้วของทีมดูคาติ สามารถคว้าชัยชนะประเภททีม ประเภทผู้ผลิต รวมทั้งประเภทนักแข่ง เรียกได้ว่าเก็บเรียบ สำหรับปีนี้จะเป็นการป้องกันแชมป์ของดูคาติ ที่ดูเหมือนว่านักแข่งแต่ละคน ที่ใช้รถของดูคาติความสามารถระดับพระกาฬทั้งนั้น โดยเฉพาะทีมโรงงานที่ได้ “เอเนีย บาสเตียนินี” ที่โชว์ผลงานได้อย่างประทับใจด้วยการคว้าชัยชนะทั้งหมด 4 ครั้ง 6 โพเดี้ยม จบอันดับที่ 3 ในคะแนนสะสมประจำปี
ส่วนเรื่องลำดับที่ 1 ของ “ฟรานเชสโก้ บัญญาญ่า” นักแข่งของ ดูคาติ คนที่ 2 ที่มาใช้เลขดังกล่าว ก่อนหน้าที่ผ่านมามี “เคซี่ สโตนเนอร์” ที่ใช้ในปี 2008 นักแข่งขันรุ่นพี่ที่เคยลำดับที่นี้มาแล้วตอนที่คว้าแชมป์โลกตอนอยู่ดูคาติเมื่อปี 2007
เปิดตัวทีมแข่งขัน โมโตจีพีMonster Energy Yamaha พร้อมนักแข่งประจำทีม
ยามาฮ่าเป็นทีมแข่งขันโมโตจีพี ทีมแรกที่ได้เปิดตัวรถ และนักแข่งประจำทีม สำหรับลุยศึก จักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลกประจำฤดูกาล 2023
โดยงานเปิดตัวนี้ยามาฮ่าได้ใช้เวทีที่ประเทศอินโดนีเซียสำหรับเพื่อการเปิดตัวทีมแข่ง โมโตจีพีอย่างเป็นทางการ นำโดยประธานฝ่ายเรซซิ่งอย่าง “ทาคาฮิโร่ ซูมิ” ตามมาด้วยผู้จัดการทีมอย่าง “ลิน จาร์วิส” และผู้อำนวยการทีมแข่ง “มัสซิโม่ เมอเรกัลลี” แล้วที่ห้ามให้ขาดเลยเด็ดขาดเลยก็คือนักแข่งประจำทีมอย่างแชมป์โลกปี 2021 “ฟาบิโอ กวาร์ตาราโร่” และเพื่อนร่วมทีม “ฟรานโก้ มอบิเดลลี”
สำหรับตัวรถแข่งโมโตจีพี Yamaha M1 ปี 2023 ยังคงใช้ลายกราฟิกคล้ายเดิมปรับแต่งลวดลายใหม่เล็กน้อย ที่มาพร้อมกับพันธมิตรสปอนเซอร์ใหญ่อย่าง Monster Energy เหนือสิ่งอื่นใดทุกสายตาจับจ้องไปที่พละกำลังของเครื่องยนต์ M1 ตัวใหม่นี้จะมีความแรงมากยิ่งขึ้นตามที่ “ฟาบิโอ กวาร์ตาราโร่” ต้องการหรือเปล่า
ซึ่งยามาฮ่านั้นได้ดึงตัว “ลูก้า มาร์โมรินี” อดีตผู้ออกแบบเครื่องจักรรถแข่ง F1 ให้กับเฟอร์รารี่และโตโยต้า มาเพื่อช่วยดึงกำลังของ M1 ให้แรงเพิ่มมากขึ้น จำเป็นต้องมาดูกันว่าการทดลองตอนวินเทอร์เทสก่อนเปิดฤดูที่สนามเซปังฯ ประเทศมาเลเซีย จะออกมายังไง
สำหรับการเปิดตัวทีมแข่งขันโมโตจีพี ทีมถัดไปจะเป็นคิวของทีม Gresini Racing ในวันเสาร์ที่ 21 มกราคมนี้ มารอติดตามกันว่าสีสันของรถแข่งนั้นจะเปลี่ยนไปหรือไม่